มิจฉาทิฐิ (บาลี: มิจฺฉาทิฏฺฐิ)
เรียกโดยย่อว่า "ทิฐิ" หมายถึง ความเห็นผิดจากความเป็นจริง หรือผิดจากทำนองคลองธรรม
พระไตรปิฎกภาษาบาลี แบ่งหมวดมิจฉาทิฏฐิไว้หลายแบบ ขอยกตัวอย่าง
นิยตมิจฉาทิฐิ 3 ในสามัญญผลสูตร ได้แก่
1. นัตถิกทิฏฐิ ความเห็นผิดว่าไม่มี10 ประการ ได้แก่
นตฺถิ ทินฺนํ การให้ไม่มีผล
นตฺถิ ยิฏฺฐํ การบูชาไม่มีผล
นตฺถิ หุตํ การเซ่นสรวงไม่มีผล
นตฺถิ สุกตทุกฺกฏานํ กม์มานํ ผลํ วิปาโก ผลวิบากแห่งกรรมที่ทำดีทำชั่วไม่มี
นตฺถิ อยํ โลโก โลกนี้ไม่มี
นตฺถิ ปโร โลโก โลกหน้าไม่มี
นตฺถิ มาตา มารดาไม่มีคุณ
นตฺถิ ปิตา บิดาไม่มีคุณ
นตฺถิ สตฺตา โอปปาติกา สัตว์ที่เกิดผุดขึ้นไม่มี
นตฺถิ โลเก สมณพฺราหฺมณา สมฺมคฺคตา สมฺมาปฏิปนฺนา เย อิมญฺจ โลกํ ปรญฺจ โลกํ สยํ อภิญฺญา สจฺฉิกตฺวา ปเวเทนฺติ สมณพราหมณ์ผู้ประพฤติปฏิบัติชอบทำให้แจ้งโลกนี้และโลกหน้าด้วยปัญญาอันยิ่งเองแล้วสอนผู้อื่นให้รู้แจ้งก็ไม่มีในโลกไม่มี
2. อเหตุกทิฐิ ความเห็นว่าไม่มีเหตุ
3. อกิริยทิฏฐิ ความเห็นว่าไม่เป็นอันทำ
ปัจจัยให้เกิดมิจฉาทิฏฐิ มี 2 อย่าง ได้แก่
1. ปรโตโฆสะ คือ การโฆษณาแต่บุคคลอื่น เสียงจากผู้อื่น ฟังคำบอกเล่าชักจูงของผู้อื่น, กระแสข่าว ข้อเขียน,บทความจากบุคคลหรือแหล่งข่าวต่างๆ
ปรโตโฆสะ มี 2 ประเภท คือ ที่เป็นจริง มีเหตุผล เป็นประโยชน์ ประกอบด้วยความหวังดี และที่เป็นเท็จ ไม่มีเหตุผล ไม่เป็นประโยชน์ มุ่งทำลาย
ปรโตโฆสะ เป็นวิถีทางเบื้องต้นแห่งปัญญาและสัมมาทิฐิ แต่ต้องมี โยนิโสมนสิการ คอยกำกับ จึงจะสามารถรู้แยกแยะและคัดสรรเฉพาะปรโตโฆสะฝ่ายดีได้ ปรโตโฆสะที่ปราศจากโยนิโส มนสิการจะนำให้เกิดความงมงาย หูเบา เชื่อง่าย ไร้เหตุผลและมิจฉาทิฐิได้ง่าย
2. อโยนิโสมนสิการ คือ การทำในใจโดยไม่แยบคาย การไม่ใช้ปัญญาพิจารณา ความไม่รู้จักคิด การปล่อยให้อวิชาครอบงำ ตรงกันข้ามกับคำว่า โยนิโสมนสิการ
โยนิโสมนสิการ หมายถึง การทำในใจให้ดีละเอียดถี่ถ้วน กล่าวคือ การพิจารณาอย่างรอบคอบถี่ถ้วน ทางพุทธศาสนาถือว่ามีคุณค่าเท่ากับความไม่ประมาทหรือ "อัปมาท" ซึ่งเป็นแหล่งรวมแห่งธรรมฝ่ายดีหรือ "กุศลธรรม" ทั้งปวง
ที่มา : จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี